วันอังคารที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

ซุนหงอคง
เห้งเจีย (อักษรจีน: 行者, จีนแคะ: หังจ้า, กวางตุ้ง: ห่างแจ๋, พินอิน: Xíng Zhě สิงเจ่อฮกเกี้ยน: เห้งเจีย; อังกฤษMagic Monkey) หรือ ซุนหงอคง เป็นหนึ่งในตัวละครเอกเรื่องไซอิ๋ว ซึ่งเห้งเจียเดิมเป็นหินที่ถูกแสงสุริยันจันทราอาบมากว่า 1,000 ปี วันหนึ่งจึงแตก และมีลิงตัวหนึ่งกระโดดออกมา ลิงตัวนั้นจึงได้ไปอยู่กับฝูงลิงที่เขาไม้ผล (เขาฮวยก๊วย จีนกลางว่า เขาฮัวกั่ว) และตั้งตัวเป็นหัวหน้าฝูง บรรดาลิงในฝูงนับถือเป็นท่านอ๋อง ฉายา "มุ้ยเกาอ๋อง" (พญาวานรโสภา)
วันหนึ่ง ลิงหินตัวนี้เห็นลิงในฝูงตัวหนึ่งตายลงด้วยความแก่ จึงเกิดความคิดจะออกเดินทางไปหาวิชาที่จะไม่ทำให้เจ็บ ไม่ทำให้ตาย จึงออกจากฝูงเดินทางเสาะแสวงหาผู้รู้ไปเรื่อย ๆ ในที่สุดก็พบกับพระพุทธสาวกรูปหนึ่งนามว่า "โผเถโจ๊ซือ" คือ พระสุภูติ (菩提祖師 - सुभूति - Subhuti)" เมื่อเซียนรับเป็นศิษย์ ได้ฝึกวิชาต่าง ๆ เช่น การแปลงกายที่แปลงได้ 72 ร่าง, ตีลังกาได้ไกลกว่า 100,000 ลี้, ยืด-หดตัวได้, ถอนขนเสกเป็นของต่าง ๆ, ขี่เมฆวิเศษ เป็นต้น พร้อมกับตั้งชื่อให้ว่า "ซึงหงอคง"[2] (จีนตัวย่อ孙悟空จีนตัวเต็ม孫悟空พินอินSūn Wùkōngเวด-ไจลส์Sun Wu-k'ungซุน อู้คงฮกเกี้ยน:ซุนหงอคง)
เมื่อฝึกวิชาสำเร็จแล้ว หงอคง เกิดลำพองใจ ไปอาละวาด อวดวิชาตามสถานที่ต่าง ๆ ไม่เว้นแม้กระทั่งสวรรค์หรือบาดาล ทำให้ 3 โลก ปั่นป่วนไปหมด เง็กเซียนฮ่องเต้ส่งทหารสวรรค์นับ 100,000นาย และเทพต่าง ๆ ไปจับ ก็จับไม่ได้ กลับถูกเห้งเจียปราบกลับมาจนเข็ดเขี้ยวตาม ๆ กัน ในที่สุด เง็กเซียนฮ่องเต้ ต้องยอมให้เห้งเจียขึ้นเป็นใหญ่ พร้อมตั้งให้เป็น "มหาเทพ" (ฉีเทียนต้าเซิ้น แปลตามตัวว่า ผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้าดิน) จากเดิมที่เป็นเพียงคนเลี้ยงม้า (ปี้ม่าอุน) แต่หงอคงก็ยังเหิมเกริมไม่เลิก ในที่สุด องค์ยูไล(พระพุทธเจ้าในความเชื่อของชาวจีน) ต้องเสด็จมาปราบเอง โดยให้หงอคงถูกทับด้วยภูเขาห้านิ้วนาน 500 ปี และผู้ที่จะช่วยออกมาได้ คือ พระถังซัมจั๋ง ผู้เดียวเท่านั้น และเห้งเจียต้องบวชเป็นลูกศิษย์รับใช้พระถังซัมจั๋งไปชมพูทวีป และมีหน้าที่คุ้มครองพระถังซัมจั๋งไปตลอดทาง
เมื่อพระถังซัมจั๋งรับหงอคงเป็นศิษย์แล้ว จึงตั้งชื่อให้ใหม่ว่า "เห้งเจีย" หรือ "ซุนเห้งเจีย" (อักษรจีน孫行者) แต่เห้งเจียก็ยังคงติดนิสัยเดิม ๆ คือ ใจร้อน ห่าม ดื้อรั้น ไม่เชื่อฟังพระถังซัมจั๋ง พระถังซัมจั๋งมีไม้ตายที่ปราบพยศเห้งเจียคือ มงคล ที่ได้รับประทานจากพระโพธิสัตว์กวนอิม ที่รัดอยู่กับหัวของเห้งเจีย เมื่อเห้งเจียพยศเมื่อไหร่ พระถังซัมจั๋ง จะสวดมนต์ เห้งเจียจะเจ็บปวดมาก มงคลอันนี้จะหายไปเมื่อภารกิจได้เสร็จสิ้นแล้ว
ตลอดระยะเวลาการเดินทาง ต้องผจญกับอุปสรรคนานัปการ โดยเฉพาะปีศาจ ที่มักปลอมตัวมาหลอกลวงให้เข้าใจผิด โดยเฉพาะกับพระถังซัมจั๋ง ซึ่งเห้งเจียมักจะมองปีศาจออกก่อนทุกครั้ง และลงมือทำร้ายไปก่อน จึงสร้างความขัดแย้งให้แก่ศิษย์ อาจารย์ คู่นี้ไปตลอด ว่ากันว่า เป็นการเจตนาสร้างความขัดแย้งของตัวละคร ซึ่งสะท้อนถึงบุคคลิกของบุคคลในลักษณะต่าง ๆ
อาวุธสำคัญของเห้งเจีย คือ กระบองวิเศษ ที่ปกติจะเก็บไว้ในรูหู สามารถยืด-หดได้ ซึ่งเดิมเป็นเสาค้ำมหาสมุทร ของเจ้าสมุทรทะเลตะวันออก (ทะเลตงไห่) และมีพาหนะเป็นเมฆวิเศษ
ปัจจุบัน หงอคง หรือ เห้งเจีย ได้รับการนับถือจากชาวจีน โดยตามศาลเจ้าบางแห่ง จะมีรูปเคารพ และนับถือเป็น ไต่เสี่ยฮุกโจ้ว หรือเจ้าพ่อเห้งเจีย เป็นต้น
รูปภาพที่เกี่ยวข้อง


ฉือโหว หรือ เจี้ยะเก๊า (石猴)
แปลว่า "ลิงหิน" อ้างถึงชาติกำเนิดดั้งเดิมของของเห้งเจียซึ่งเกิดจากหินที่อาบแสงอาทิตย์แสงจันทร์มานับพันปีบนยอดเขาฮวยก๊วยซัว
เหม่ย์โหวหวาง หรือ มุ้ยเกาอ๋อง (美猴王)
แปลว่า "พญาวานรโสภา" เรียกโดยย่อว่า โหวหวัง (Hóuwáng) คำคุณศัพท์ "เหม่ย์" (Měi) หมายถึง "งดงาม, สง่างาม, น่ารัก" และยังหมายความว่า "หลงตัวเอง" ซึ่งอ้างอิงถึงอัตตาของหงอคง คำว่า "โหว" (Hóu) ซึ่งแปลว่าลิง ยังเน้นถึงนิสัยที่ดื้อรั้นและเจ้าเล่ห์ของหงอคงด้วยเช่นกัน
ซุน อู้คง หรือ ซึงหงอคง (孫悟空)
เป็นชื่อที่พระสุภูติได้ตั้งให้ แซ่ "ซุ่น" ("ซึง") เป็นการล้อมาจจากคำว่า ซุ่น (猻) ซึ่งแปลว่า ลิง, ค่าง คำว่า "อู่โค้ง" ("หงอคง") มีความหมายว่า "ตื่นรู้ใน (ความว่าง)" ชื่อนี้ออกเสียงไปต่างๆ กันในแต่ละถิ่น เช่น ซุ่นอู้โค้ง (จีนกลาง), ซึงหงอคง (แต้จิ๋ว), ซึ้นโหง่วค้ง (ฮกเกี้ยน), ซึ้งอือโฮง (กวางตุ้ง), ซนโอกง" (เกาหลี), Tôn Ngộ Không (เวียดนาม), ซุนโกคู (ญี่ปุ่น) เป็นต้น
ปี้หม่าเวิน หรือ เป๊กเบ้อุน (弼馬溫)
ตำแหน่งคนเลี้ยงม้าสวรรค์ ล้อมาจากคำว่า bìmǎwēn (避馬瘟; lit. "avoiding the horses' plague") ซึ่งมาจากความเชื่อของคนจีนว่า เอาลิงไปไว้ในคอกม้า จะทำให้ม้าไม่เจ็บป่วย มีสุขภาพสมบูรณ์ ตามท้องเรื่องกล่าวว่า หงอคงได้ตำแหน่งเป๊กเบ้อุนจากเง็กเซียนฮ่องเต้หลังจากที่เขาไปอาละวาดบนสวรรค์ครั้งแรก โดยครั้งนั้นเขาได้รับคำมั่นว่าจะแต่งตั้งให้อยู่ในตำแหน่งของเทพขั้นสูง แต่เมื่อความจริงปรากฏว่าเปี๊ยกเบ๊อุนเป็นตำแหน่งชั้นต่ำสุดในสวรรค์ ซึงหงอคงก็โกรธ จึงทำลายคอกม้า ปล่อยม้าอาละวาดบนสวรรค์ แล้วกลับมาอยู่เขาฮวยก๊วยซัว ศัตรูของหงอคงมักเรียกหงอคงด้วยชื่อนี้เพื่อเป็นการเยาะเย้ย
ฉีเทียนต้าเชิ่ง หรือ ชีเทียนไต้เสี่ย (齊天大聖)
แปลว่า "ผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้า". Wùkōng took this title suggested to him by one of his demon friends, after he wreaked havoc in heaven people who heard of him called him Great Sage. This is pronounced in Japanese as seiten-taisei ("great sage", dàshèng and taisei, is a Chinese and Japanese honorific). The title originally holds no power, though it is officially a high rank. Later the title was granted the responsibility to guard the Heavenly Peach Garden, due to the Jade Emperor keeping him busy so he won't make trouble.
สิงเจ่อ หรือ เห้งเจี้ย (行者)
Meaning "ascetic", it refers to a wandering monk, a priest's servant, or a person engaged in performing religious austerities. Xuanzang calls Wukong Sūn-xíngzhě when he accepts him as his companion. This is pronounced in Japanese as gyōja (making him Son-gyōja).
โต้วจั้นเชิ่งฝอ หรือ โต่วเจี่ยงเส่งฮุด (鬥戰勝佛)
"ยุทธวิชัยพุทธะ" Wukong was given this name once he ascended to buddhahood at the end of the Journey to the West. This name is also mentioned during the traditional Chinese Buddhist evening services, specifically during the eighty-eight Buddhas repentance.
ต้าเชิ่งฝัวจู่ หรือ ไต๋เสี่ยฮุดโจ้ว (大聖佛祖)
เป็นนามที่ได้รับเมื่อบรรลุเป็นพระโพธิสัตว์แล้ว.
In addition to the names used in the novel, the Monkey King has other names in different languages:
  • โหวฉีเทียน Kâu-chê-thian (猴齊天) in Minnan (Taiwan): "Monkey, Equal of Heaven".
  • Maa5 lau1 zing1 (馬騮精) in Cantonese (Hong Kong and Guangdong): "Monkey Imp" (called by his enemies)


อ้างอิง



https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%B5%E0%B8%A2

จัดทำโดย
ด.ช.  สหพัฒน์    ตั้งสมบัติสกุล       เลขที่ 9   ป.6/2

วันอังคารที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2562

องค์ประกอบคอมพิวเตอร์

องค์ประกอบคอมพิวเตอร์



องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์ มี 4 ส่วน คือ ฮาร์ดแวร์, ซอฟต์แวร์, บุคลากร, ข้อมูลและสารสนเทศ

คอมพิวเตอร์ คือ อุปกรณ์ทางอิเล็กทรอนิกส์ electronic device (อิเล็กทรอนิกส์ ดีไว) ที่มนุษย์ใช้เป็นเครื่องมือช่วยในการจัดการกับข้อมูลที่อาจเป็นได้ทั้งตัวเลข ตัวอักษร หรือสัญลักษณ์อื่นที่ใช้แทนความหมายในสิ่งต่าง ๆ คอมพิวเตอร์สามารถทำงานได้หลากหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับชุดคำสั่งที่เลือกมาใช้งาน ทำให้สามารถนำคอมพิวเตอร์ไปประยุกต์ใช้งานได้อย่างกว้างขวาง

ระบบคอมพิวเตอร์ประกอบด้วยองค์ประกอบสำคัญ 4 ส่วน คือ ฮาร์ดแวร์, ซอฟต์แวร์, บุคลากร, ข้อมูลและสารสนเทศ



1. Hardware (ฮาร์ดแวร์) คือ ลักษณะทางกายของเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งหมายถึงตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์รอบข้าง peripheral (เพอริพีรีว) ที่เกี่ยวข้อง เช่น ฮาร์ดดิสก์ , เครื่องพิมพ์, ซีพียู, เมนบอร์ด, แรม, การ์ดจอ, ไดร์ฟ ดีวีดี, เคส, จอภาพ, คีบอร์ด, เมาส์ เป็นต้น

ฮาร์ดแวร์ประกอบด้วย
- หน่วยรับข้อมูล จะเป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับข้อมูลต่าง ๆ เข้าสู่คอมพิวเตอร์ จากนั้นหน่วยประมวลผลกลาง จะนำไปประมวลผล และแสดงผลลัพธ์ที่ได้ออกมากให้ผู้ใช้รับทราบทางหน่วยแสดงผลลัพธ์


Software (ซอฟต์แวร์)





2. Software (ซอฟต์แวร์) คอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์ที่ประกอบออกมาจากโรงงานจะยังไม่สามารถทำงานใด ๆ เนื่องจากต้องมี Software (ซอฟต์แวร์) ซึ่งเป็นชุดคำสั่งหรือโปรแกรมที่สั่งให้ฮาร์ดแวร์ทำงานต่าง ๆ ตามต้องการ โดยชุดคำสั่งหรือโปรแกรมนั้นจะเขียนขึ้นมาจาก ภาษาคอมพิวเตอร์ Programming Language (โปรแกรมิงแลงเกท) ภาษาใดภาษาหนึ่ง และมี โปรแกรมเมอร์ Programmer (โปรแกรมเมอร์) หรือนักเขียนโปรแกรมเป็นผู้ใช้ภาษาคอมพิวเตอร์เหล่านั้นเขียนซอฟต์แวร์ต่าง ๆ ขึ้นมา ซอฟต์แวร์ สามารถแบ่งออกเป็นสองประเภทใหญ่ ๆ คือ


3. บุคลากร Peopleware (พิเพิลแวร์) เครื่องคอมพิวเตอร์โดยมากต้องใช้บุคลากรสั่งให้เครื่องทำงาน เรียกบุคลากรเหล่านี้ว่า ผู้ใช้ หรือ user (ยูเชอร์)


4. ข้อมูลและสารสนเทศ Data Information (ดาต้า อิมฟอเมชัน) ในการทำงานต่าง ๆ จะต้องมีข้อมูลเกิดขึ้นตลอดเวลา ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับงานที่ถูกเก็บรวบรวมมาประมวลผล เพื่อให้ได้สารสนเทศที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้ ซึ่งในปัจจุบันมีการนำเอาระบบคอมพิวเตอร์มาเป็นข้อมูลในการดัดแปลงข้อมูลให้ได้ประสิทธิภาพ โดยความแตกต่างระหว่าง ข้อมูล และ สารสนเทศ



สารสนเทศ คือ ข้อมูลที่ผ่านกระบวนการเก็บรวบรวมและเรียบเรียง เพื่อเป็นแหล่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้สารสนเทศที่ดี จะช่วยให้ ผู้บริหารสามารถตัดสินใจได้ถูกต้องแม่นยำขึ้น และช่วยให้การประมาณการในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนหรือยอดขายใกล้เคียงกับความเป็นจริงที่จะเกิดขึ้นได้มากที่สุด







อ้างอิง

sites.google.com


ผู้จััดทำ


ด.ช.ศตวรรษ จิตรกวีชั้นป.6/2 เลขที่5

ด.ช.ทศภณ หนูศร๊แก้วชั้นป.6/2 เลขที่10




ก็อตซิลล่า




ก็อตซิลล่า เป็นภาพยนตร์สัตว์ประหลาดของญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมเป็นมาก สร้างโดยโทโมยูกิ ทานากะ โปรดิวเซอร์ของบริษัทโตโฮภาพยนตร์ โดยมีตัวเอกของเรื่องคือ ก็อตซิลลา ออกฉายครั้งแรกในปี ค.ศ.1954 เพื่อเป็นการย้ำเตือนความน่ากลัวของอาวุธนิวเคลียร์


ในแบบฉบับของอเมริกาที่ฉายในปี 1998 จะมีจุดกำเนิดมาจากกิ้งก่าที่โดนระเบิดนิวเคลียร์แล้วกลายพันธุ์เป็นซิลล่า(ทางแฟนๆก็อตซิลล่าไม่นับตัวนี้ว่าเป็นก็อตซิลล่าเนื่องจากการออกแบบ การลดทอนความแข็งแกร่ง ทำให้ ฮารุโอะ นากาจิมา นักแสดงชายผู้สวมชุดก็อตซิลลาในภาพยนตร์ก็อตซิลลายุคแรก พูดออกมาว่า "เจ้านี่ไม่ใช่ก็อต

ซิลล่า") แต่ในแบบฉบับของญี่ปุ่นในยุคเฮเซย์จะมีจุดกำเนิดมาจากไดโนเสาร์ที่โดนนิวเคลียร์แล้วกลายเป็นก็อตซิลล่า (ซึ่งจุดกำเนิดของก็อตซิลล่าของญี่ปุ่นจะมีเพิ่มเติมในภาค ก็อตซิลล่าปะทะคิงกิโดร่า) แต่ภาคต้นฉบับในปีค.ศ. 1954 ก็อตซิลล่าจะเป็นสัตว์โบราณที่กำลังจำศีลอยู่ใต้ทะเลและถูกปลุกขึ้นจากการทดลองระเบิดนิวเคลียร์ (คนส่วนใหญ่มักจะคิดว่าก็อตซิลล่าตัวนี้มีต้นกำเนิดเหมือนกับก็อตซิลล่ายุคเฮเซย์แต่จริงๆแล้วไม่ใช่ ข้อมูลนี้อ้างอิงมาจากหนังสือก็อตซิลล่าของโตโฮ)


ก็อตซิลลาได้รับความนิยมเป็นอย่างมากทั้งในประเทศญี่ปุ่นและประเทศอื่นในเอเชีย ถึงขนาดที่ฮอลลิวู้ดได้ซื้อลิขสิทธิ์ไปสร้างเป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่อง Godzilla ในปี 1998 และ Godzilla ในปี 2014(และ 2019 ในอีก 2 ปีข้างหน้า)










https://www.youtube.com/watch?v=rt5IJzKQhxs





























































จากลักษณะร่างกายใหญ่โต และความแข็งแกร่งของก็อตซิลลานี้เอง ที่ได้ส่งผลให้มีการนำชื่อก็อตซิลลา ไปเป็นฉายาให้กับนักมวยไทยชาวเยอรมันที่มีชื่อว่า ยาห์ยา กูเลย์[5]





และมีการตั้งเป็นชื่อสกุลของไดโนเสาร์กินเนื้อที่มีความยาว 5.5 เมตร ที่รัฐนิวเม็กซิโกว่า Gojirasaurus ซึ่งมาจากคำว่า "โกจิร่า" อันเป็นชื่อในสำเนียงภาษาญี่ปุ่นของก็อตซิลลา โดยผู้ค้นพบคือ เคนเนธ คาร์เพนเธอร์ นักบรรพชีวินวิทยาก็เป็นแฟนชนิดเหนี่ยวแน่นของก็อตซิลลาด้วยนั่นเอง[6]
























ศัตรูของก็อตซิลล่า


1.แองกิรัส เป็นไดโนเสาร์พันธุ์แองคิโลซอรัสที่กลายพันธุ์เนื่องมาจากระเบิดนิวเคลียร์ เช่นเดียวกับ ก็อตซิลลา(เจอก็อตซิลลาครั้งแรกใน Godzilla Raids Again(1955))





2.คิง คอง เป็นลิงกอริลล่าที่กลายพันธุ์จนมีขนาดใหญ่ยักษ์(เจอก็อตซิลลาครั้งแรกใน King Kong VS Godzilla(1962)


3.เม็กกะก็อตซิลล่า ในช่วงแรกมันถูกสร้างขึ้นโดยมนุษย์ต่างดาวเพื่อใช้ยึดครองโลก โดยมีก็อตซิลลาเป็นต้นแบบ แต่ในภาคหลังๆมันกลับถูกสร้างโดยมนุษย์แทน เม็กกะก็อตซิลลามีขีปนาวุธทั่วทั้งตัว ยิงได้หลายอย่างพร้อมกันได้(เจอก็อตซิลลาครั้งแรกใน Godzilla VS Mechagodzilla(1974))(ยุคมิลเลนเนียมมันใช้ชื่อว่า คิริว)
มิตรของก็อตซิลล่า
1.มอธร่า เป็นผีเสื้อกลางคืนที่มีขนาดใหญ่เปรียบเหมือนเทพเจ้าที่คอยดูแลสิ่งศักดิ์สิทธิ์


ส่วนสูงของก็อตซิลล่าและน้ำหนักของแต่ละยุค[แก้]


ก็อตซิลล่ายุคโชวะ สูง 50เมตร หนัก 20,000ตัน


ก็อตซิลล่ายุคเฮเซย์ปี 1984-1989 สูง 80เมตร หนัก 50,000ตัน


ก็อตซิลล่ายุคเฮเซย์ปี 1991-1995 สูง 100เมตร หนัก 60,000ตัน


ก็อตซิลล่ายุคมิลเลนเนี่ยม ปี1999 2000 2002 2003 สูง 55เมตร หนัก 25,000ตัน


ก็อตซิลล่ายุคมิลเลนเนี่ยม ปี 2001 สูง 60เมตร หนัก 30,000ตัน


ก็อตซิลล่ายุคมิลเลนเนี่ยม(ไฟนอลวอร์) ปี2004 สูง 100เมตร หนัก 55,000ตัน


ก็อตซิลล่า 2014 สูง 108เมตร หนัก 90,000ตัน


ก็อตซิลล่า รีเซอร์เจนท์(ปี 2016) สูง 118.5เมตร หนัก 92,000ตัน


ก็อตซิลล่า2017(อนิเมะ) สูง 50เมตรและหนัก10,000ตัน สูง 318เมตรและหนัก






100,000ตัน(ตอนอายุ20,000ปี)




รายชื่อตอน[แก้]



ก็อตซิลล่า (1954)
ก็อดซิลลา อสูรร้ายคืนชีพ (1955)
คิงคอง ปะทะ ก็อดซิลลา (1962)
กิโดร่า อสูรกาย 3 หัว (1964)
มอสรา ปะทะ ก็อดซิลลา (1964)
สัตว์ประหลาดจากต่างดาว (1965)
อีบีร่ามฤตยูใต้สมุทร (1966)
ลูกก็อตซิลลาอาละวาด (1967)
ศึกถล่มเกาะสัตว์ประหลาด (1968)
การแก้แค้นของก็อตซิลล่า (1969)
ก็อตซิลล่าผจญฮีโดร่า (1971)
ก็อดซิลลา ปะทะ ไกกัน (1972)
ก็อตซิลล่า ปะทะ สัตว์ประหลาดใต้พิภพ (1973)
ก็อดซิลลา ปะทะ เมก้าก็อดซิลลา (1974)
มหาประลัยก็อตซิลล่าเหล็กถล่มก็อดซิลลา (1975)

ก็อตซิลล่าทลายโลก (1984)
ก็อดซิลลาผจญต้นไม้ปีศาจ (1989)
ก็อดซิลลา ปะทะ คิงส์-กิโดรา (1991)
ก็อดซิลลา ปะทะ มอสรา (1992)
ก็อดซิลลา ปะทะ เมก้าก็อดซิลลา 2 (1993)
ก็อดซิลลา ปะทะ สายพันธุ์ก็อดซิลลาต่างดาว (1994)
ก็อตซิลล่า ถล่ม เดสทรอยย่า ศึกอวสานก็อตซิลล่า (1995)
ก็อตซิลล่า 2000 (1999)
ก็อดซิลล่า ปะทะ เมก้ากีรัส ก็อดซิลล่าตะลุยข้ามศตวรรษ (2000)
ก็อดซิลลา, มอสรา และคิงส์กิโดรา สงครามจอมอสูร (2001)
ก็อดซิลลา สงครามโค่นจอมอสูร (2002)
ก็อดซิลลา ศึกสุดยอดจอมอสูร (2003)
ก็อดซิลลา สงครามประจัญบาน 13 สัตว์ประหลาด (2004)
ก็อตซิลล่า (ภาพยนตร์ พ.ศ. 2557) (2014)
ก็อตซิลลา รีเซอร์เจนท์ (2016)
ก็อตซิลล่า มหาศึกทวงโลก (2017)












อ้างอิง


https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B9%87%E0%B8%AD%E0%B8%95%E0%B8%8B%E0%B8%B4%E0%B8%A5%E0%B8%A5%E0%B8%B2













ผู้จััดทำ


ด.ช.ศตวรรษ จิตรกวีชั้นป.6/2 เลขที่5


ด.ช.ทศภณ หนูศร๊แก้วชั้นป.6/2 เลขที่10